ลูกอมหลวงพ่อไล้ วัดเขายี่สาร เป็นวัตถุมงคลอีกชนิดหนึ่งที่เด่น และเน้นทางเมตตามหานิยมมากๆ จนเกิดเป็นคำพูดที่ว่า ลูกอมขุนแผนแห่งเมืองแม่กลอง เพลย์บอยตัวพ่อ และต้องยกให้ลูกอมของท่านเป็นลูกอมในตำนาน “ที่เรียกว่าลูกอมในตำนาน เพราะอำนาจพุทธคุณที่เล่าขานสืบต่อ และปัจจุบันเป็นลูกอมที่ห่างหายไปจากตลาด ห่างหายไปจากวงการเพราะ ของแท้หายากเหลือเกิน จนเป็นลูกอมที่เริ่มลืมเลือนกันไปแล้ว”

ลูกอมหลวงพ่อไล้ (ร้าย) วัดเขายี่สาร_ลูกอมที่ท่านสร้างมีส่วนผสมของผงว่าน ผงพุทธคุณ ชันยาเรือที่ท่านบิณฑบาต เม็ดลูกอมของท่านจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำแบบใครคือ ตรงที่เป็นห่วงม้วนจะทำจากลวดเหล็กหรือลวดทองแดงม้วนด้วยมือ ลูกอมท่านดีทุกทาง โดยเฉพาะกันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษ อีกทั้งเด่นเรื่อง เมตรามหานิยม เสียดายที่ตอนหลังหลวงพ่อท่านเอาลูกอมที่เหลือใส่เรือไปทิ้งทะเลจนหมดสิ้น และไม่สร้างอีก เพราะ มีผู้นำเอาลูกอมของท่านไปฝนกับหินครกไปใส่น้ำให้ผู้หญิงกิน และพอได้เขาแล้วก็ทิ้ง อยากรู้ก็ลงไปอ่านประวัติกันได้เลยครับ
     ลูกอมเนื้อผงผสมชันยาเรือผสมผงว่านลูกนี้ มีห่วงม้วนเป็นลวดเหล็ก แบบนี้ ถ้าเป็นนักเล่นพระรุ่นเก่าจะทราบดีว่านี่คือ "ลูกอมยุคแรกของหลวงพ่อไล้ (ร้าย) วัดเขายี่สาร" ซึ่งตัววัดเขายี่สารนี่จะตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรสงคราม ใกล้กับเขตรอยต่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ณ. ที่แห่งนี้มียอดพระเกจิอาจารย์นาม "ลพ.ไล้" ซึ่งท่านเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ท่านถือว่าเป็นยอดพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งแต่ชอบเก็บตัวอยู่บนเขายี่สาร ทำให้เป็นที่รู้จักกันเฉพาะคนพื้นที่ อัมพวา ปากท่อ ราชบุรี โพธาราม (บ้านผม วัต ท่าพระจันทร์) และเพชรบุรี เป็นต้น.
   
จากนามของท่านนั้นเมื่อวันเวลาผ่านไป การเรียกชื่อของท่านก็เลยเพี้ยนเสียงจาก "ลพ.ไล้" กลายเป็น "ลพ.ร้าย" ซึ่งทำให้หลายท่านก็ครุ่นคิดสงสัยว่าทำไมหลวงพ่อชื่อ(ร้าย) ซึ่งเป็นชื่อที่แปลก แต่ชื่อที่แท้จริงของท่านคือ ไล้...จากคำบอกเล่าของคนพื้นที่เล่าว่า ท่านเป็นพระดุ โผงผาง พูดจาตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม เสียงดัง แบบมีอำนาจ ดังนั้นใครไปหาท่าน ถ้าใจฝ่อๆไป รับรองว่าจะต้องพูดติดอ่างตะกุกตะกักโดยอัตโนมัติ แต่จริง ๆ ท่านเป็นพระที่ใจดี ท่านเริ่มสร้างลูกอมแบบนี้มาตั้งแต่ยุค ๒๔๗๐กว่าๆ โดยนำผงพุทธคุณที่ท่านเขียนลบเอง ผสมกับว่านหลายชนิด แล้วนำมาวนกลึงเป็นก้อนกับชันยาเรือ ให้มีลูกกลมขนาดไล่เลี่ยกัน จากนั้นจึงนำไปเก็บไว้ที่โบสถ์ โดยท่านจะทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็นทุกวัน พร้อมกับปลุกเสกไปในตัว พอเห็นว่าได้ที่แล้วจึงนำมาแจกให้ชาวบ้านเอาไปติดตัวกัน ซึ่งสมัยก่อนพื้นที่ของวัดนี้คล้ายแหลมยื่นไปในทะเลแบบบ้านเขาแหลม ลูกศิษย์ของท่านส่วนใหญ่ก็เป็นชาวทะเลและชาวสวน

ที่ว่าประสบการณ์โด่งดังจนท่านต้องเอาลูกอมไปโยนทะเลทิ้งไปเพราะคราวหนึ่งมีลูกศิษย์ท่านอยากลองของเลยนำลูกอมของท่านไปฝนกับหินครกเป็นผงละเอียดแล้วนำไปให้หญิงชาวบ้านดื่ม หลังจากนั้นก็เป็นสามีภรรยาสมดังใจ แต่ปรากฏว่าไม่นานก็เปลี่ยนใจทิ้งภรรยาคนนี้อย่างไม่มีเยื่อใย แล้วก็ไปมีผู้หญิงคนใหม่ พอความรู้ถึงหูหลวงพ่อ หลวงพ่อไล้ท่านจึงเรียกมาอบรมพร้อมกับแช่งเอาไว้สำหรับผู้ที่เอาของๆ ท่านไปใช้ในทางที่ผิดแล้วไม่รับผิดชอบ พร้อมกันนั้นด้วยความโมโห หลวงพ่อไล้ท่านจึงนำเอาลูกอมที่มีอยู่ในโบสถ์ใส่เรือไปทิ้งทะเลหน้าวัดจนหมดสิ้นไปในคราวนั้น แต่ที่แปลกก็คือไม่มีใครสามารถหาเจอลูกอมของท่านที่ได้ทิ้งไปนั้นเลย

ดังนั้นลูกอมที่มีให้เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้(เฉพาะของแท้) ก็คือของที่หลวงพ่อไล้ ท่านได้แจกให้ไว้กับคนพื้นที่ หรือคนที่ไปขอท่านก่อนวาระโยนทิ้งทะเล ดังนั้นการหมุนเวียนเปลี่ยนมือจึงมีน้อยแบบว่านานๆ จะมีมาที พุทธคุณที่ประจักษ์แล้วในลูกอมของท่านนอกจากเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์แล้ว เรื่องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอนั้น ฉะงักนักแล ขนาดเคยมีคนโดนงูฉกแต่ไม่เป็นไร

จากประวัติมีการเล่าขานสืบต่อตำนานให้ได้ยินได้ฟังว่า_งูบนเขายี่สารนั้นชุกชุมมาก แต่กัดคนไม่ตาย ไม่ใช่ว่าเพราะทุกคนมีลูกอมหลวงพ่อไล้กัน แต่เป็นเพราะครั้งหนึ่งมีศิษย์ผู้ศรัทธา ได้เดินทางไกลมาหาหลวงพ่อไล้ พอเดินขึ้นเขายี่สารก็ปรากฏว่าโดนงูเห่าฉกกัดเข้าไปเต็มๆ กว่าจะเดินขึ้นเขาไปถึงกุฏิของท่านก็มีอาการล่อแล่ แต่ด้วยหลวงพ่อไล้ท่านเป็นพระหมอ จึงรักษาคนที่โดนงูกัด มีอาการพิษงูได้อย่างไม่ยากเย็น พร้อมกันนี้ท่านได้กล่าวว่า "ต่อแต่นี้ไปงูบนเขายี่สาร มันไม่มีพิษฉกกัดใครไม่เป็น" และก็จริงดังที่ท่านกล่าว นับตั้งแต่สิ้นเสียงที่หลวงพ่อท่านเอ่ยวันนั้น คนที่เดินทางไปที่วัดเขายี่สาร ก็ไม่เคยมีใครโดนงูกัดอีกเลย เพราะงูบนเขายี่สารเวลาเจอคนจะเลื้อยหนีหมด จึงเป็นที่ล่ำลือกันตั้งแต่นั้นมาว่า หลวงพ่อไล้ ท่านมีวาจาสิทธิ์.
เป็นความรู้เล็กๆกับวัตถุมงคลเก่าแก่ที่กำลังจะถูกลืมเลือนครับ_วัต ท่าพระจันทร์

สวยครับ เก่าอายุถึงยุค หายากมากๆครับ